19 กันยายน 2551






วิธีการดูแลสุนัข




การแปรงฟันให้สุนัขยาสีฟันที่จะใช้ในการแปรงฟันให้สุนัขควรจะเป็นยาสีฟันที่ผลิตขึ้นมาให้สัตว์เลี้ยงใช้โดยเฉพาะเพราะสามารถกลืนได้ค่ะ เราไม่ควรใช้ยาสีฟันของคนในการแปรงให้สุนัขเพราะว่ายาสีฟันของคนไม่ได้ผลิตเพื่อให้สามารถกลืนได้




1. เริ่มต้นเราควรที่จะให้สุนัขคุ้นเคยกับการที่มีสิ่งของแหย่เข้าไปในปากของเค้าเสียก่อน โดยการใช้นิ้วมือของเราจุ่มลงไปในน้ำซุบหรืออาหารเปียกของสุนัขก็ได้ เรียกสุนัขให้เข้ามาหาโดยให้เสียงที่ให้ความหมายว่าเรากำลังจะให้ขนมเค้าและปล่อยให้สุนัขเลียน้ำซุบหรืออาหารที่นิ้วมือหลังจากนั้นก็ให้ใช้นิ้วถูไปทั่วๆเหงือกและฟันของสุนัขเบาๆ...หลังจากฝึกขั้นตอนแรกนี้ไปสักระยะนึงสุนัขจะคุ้นเคยและเราสามารถเริ่มขั้นต่อไปได้

2. ใช้เศษผ้าก๊อตพันรอบๆนิ้วมือของเรา (เจ้าของจะจุ่มลงไปในน้ำซุปหรืออาหารแบบขั้นตอนที่ 1ก็ได้) ถูวนเป็นวงกลมไปที่ฟันของสุนัขอย่างเบาๆ ฝึกแบบนี้ซ้ำๆซักระยะนึงจนเมือสุนัขรู้สึกสบายและคุ้ยเคยกับการถูฟันแบบนี้ จำไว้ว่าอย่าลืมที่จะชมเชยสุนัขและควรทำการฝึกให้สนุกสนานรื่นเริงไม่น่าเบื่อ


3. หลังจากสุนัขคุ้ยเคยกับการแปรงฟันโดยผ้าก๊อต เราก็พร้อมที่จะเริ่มกับแปรงสีฟัน เราต้องให้สุนัขคุ้นเคยกันตัวแปรงสีฟัน โดยเฉพาะขนบนแปรงสีฟัน เพราะฉะนั้นเราควรเริ่มโดยการให้สุนัขเลียของที่มีรสชาติ เช่นอาหารเปียก หรือ ซุป บนแปรงสีฟันก่อน
4. เมื่อสุนัขคุ้นเคยกับแปรงสีฟันที่เราจะใช้ เราสามารถเพิ่มยาสีฟันลงไปใช้ได้แล้ว ยาสีฟันสำหรับสัตว์ส่วนใหญ่จะมีกลิ่นและรสชาติของ ไก่ เป็น ตับ มอลท์ หรือ ฯลฯ ฉะนั้นสุนัขจะชอบรสชาติของยาสีฟัน เราต้องทำให้สุนัขคุ้นเคยกับรสชาติของยาสีฟันโดยการให้สุนัขเลียยาสีฝันบางส่วนจากนิ้วมือของเรา จากนั้นถูนิ้วที่มียาสีฝันไปทั่วๆเหงือกของสุนัขเบาๆ และอย่าลืมชมเชยสุนัขด้วย

5. เมือน้องหมาคุ้นเคยกับแปรงสีฟันและยาสีฟัน เริ่มแรกเราอาจจะแปรงแค่เขี้ยวเด้านบนเขี้ยวดียวหรือทั้งสองเขี้ยวด้านบนของสุนัข เพราะว่านี้เป็นฟันที่ง่ายที่สุดที่จะแปรงจะไปถึงและง่ายต่อการฝึกแปรง ตามข้างต้นเมื่อน้องหมายอมที่จะให้แปรงฟันหลายๆซี่ ให้เราเพิ่มจำนวนฟันในการแปรงอย่างช้าๆ ให้เราพยายามทำเหมือนว่านี้เป็นเกมส์ที่ทั้งคนและสุนัขสนุกไป

อุปกรณ์ และ การแปรงขนให้น้อง Pomeranianอุปกรณ์การแปรงขน

แปรงไม่มีหมุด (Pin Brush)...ทำจากโลหะ แปรงที่ดีควรเป็นสเตนเลส ซึ่งไม่ทำให้ขนเป็นไฟฟ้าสถิตเวลาแปรงและไม่เป็นสนิม พื้นแปรงควรเป็นยางนุ่มยืดหยุ่นได้เวลาแปรงเพื่อไม่ให้น้องปอมเจ็บ ปลายเข็มมนแต่ไม่หุ้มหรือเคลือบพลาสติกที่จะทำให้ขนขาดได้ แปรงไม่มีหมุดนี้จะไม่ดึงขนชั้นในดังนั้นจึงแปรงได้ทุกวันเพื่อป้องกันขนพันกัน2. หวี (Steel Comb)... หวีเหล็กที่มีสองความถี่ในด้ามเดียวกันไม่ว่าจะเป็นแบบสองด้านหรือด้านเดียวนั้นเป็นสิ่งจำเป็นต้องใช้ในการตรวจหาขนพันกันและใช้แก้สังกะตัง ซึ่งแปรงชนิดอื่นๆนั้นไม่สามารถทำได้
แปรงสลิคเกอร์ (Slicker Brush)...แปรงชนิดนี้มีขนเป็นลวดอ่อนวางถี่ๆบนหน้าแปรงใช้แปรงขนชั้นใน โดยควรใช้แปรงบริเวณที่ขนพันกันได้ง่ายเช่น หลังใบหู ซอ
กขา และ รักแร้ เป็นต้นเพื่อช่วยแก้ขนพันกันในระยะต้นๆและเป็นการป้องกันสังกะตังไปในตัว4. มีดสางขน (Dematting Tools)... ในกรณีที่น้องปอมขนพันกันแบบเกินจะเยียวยาด้วยแปรงหรือหวีไปแล้วนั้น การมีมีดสางขนไม่ว่าจะเป็นแบบคราด(สีเขียว) หรือ แบบเคียว(สีขาว) จะช่วยแก้ขนพันกันให้คุณได้โดยไม่ต้องตัดออกทั้งกระจุกจนแหว่ง แต่ขนจะดูบางลงและสั้นลงเล็กน้อยเท่านั้น
แป้งเด็ก หรือ แป้งฝุ่น (Talcum Powder or Baby Powder)...สำหรับใช้โรยบนขนเพื่อไล่ความชื้นและน้ำมันที่ทำให้ขนลีบไม่ฟูออกมา6. สเปรย์บำรุงขน (Leave-In Conditioner)... ในบางครั้งขนสุนัขแห้งมากๆนั้นคุณควรใช้สเปรย์บำรุงขนที่มีส่วนผสมของครีมนวดที่ช่วยให้ขนชุ่มชื่นและลื่นขึ้นก่อนจะเริ่มแปรง ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ขนขาดและช่วยให้หวีหรือแปรงง่ายขึ้น และยังให้น้องปออมมีกลิ่นหอมอีกด้วย
วิธีการแปรงขนน้องปอมการแปรงควรจะแปรงตามลำดับดังนี้ค่ะ1. ขนใต้ท้อง... ให้น้องปอมนอนหงายบนตักของคุณ (น้องปอมส่วนใหญ่จะไม่ชิน เพราะฉะนั้นควรจะเริ่มทำตั้งแต่เค้ายังเด็ก โดยพูดกับเค้าดีๆหรือมีขนมให้เป็นรางวัลบ้างจะช่วยให้เค้ารู้สึกดีกับการแปรงขนในท่าต่างๆและจะชินไปเองในที่สุด) เริ่มแปรงที่หน้าท้องขึ้นไปจนถึงขาหน้า โดยแบ่งขนเป็นชั้นๆจากโคนถึงปลาย ด้วยแปรงไม่มีหมุด จากนั้นแปรงตามซอกขาหน้า หลัง และรักแร้อย่างละเอียดเพื่อไม่ให้ขนพันกัน
ขนตามลำตัว... แบ่งขนน้องปอมที่กลางหลังให้ออกเป็นสองส่วน แปรงขนด้วยแปรงไม่มีหมุดจากโคนถึงปลายเป็นชั้นๆ ข้างใดข้างหนึ่งให้เสร็จก่อนจึงแปรงอีกข้าง3. ขนต้นคอและหลังใบหู... ควรแปรงขนส่วนนี้อย่างละเอียดที่สุดเนื่องจากเป็นบริเวณที่ขนสามารถพันกันได้ง่ายมาก โดยใช้ปลายแปรงไม่มีหมุดเขี่ยขนชั้นในและนอกออกให้ตั้งขึ้นเป็นชั้นๆ และใช้แปรงสลิคเกอร์แปรงขนข้างหูเพื่อป้องกันขนพันกัน4. ขนหน้าอก... ใช้แปรงไม่มีหมุดแปรงทวนทิศทางที่ขนขึ้นที่ละชั้น5. ขนหาง... ใช้หวีเหล็กหวีขนหางทั้งด้านนอกและใน แล้ววางหางพาดบนกลางหลังของน้องปอม
6. ขนส่วนก้น และ สะโพก... ใช้แปรงไม่มีหมุดแปรงขนทีละชั้น โดยแปรงขนานกับส่วนก้นและส่วนสะโพก7. เมื่อแปรงขนตามส่วนต่างๆเรียบร้อยแล้ว ใช้หวีเหล็กหวีให้ทั่วลำตัวเพื่อตรวจดูว่ายังมีขนพันกันอีกหรือไม่ หากพบขนพันกันให้ค่อยๆแปรงแก้ขนพันกันอย่างเบาๆทีละน้อย จะใช้สเปรย์แก้ขนพันกันที่ช่วยให้ขนลื่นและแก้ง่ายขึ้นช่วยก็ได้เพื่อที่น้องปอมของคุณจะได้ไม่เจ็บ จากนั้นให้ปอมของคุณยืนขึ้นแล้วแปรงให้เข้าทรงโดยแปรงไปด้านหน้าเริ่มจากส่วนหัวไหล่ไปจนถึงโคนหางเท่านี้น้องปอมก็จะมีขนที่สวย ฟู น่ากอดน่าหอม
เทคนิคการป้อนยาเม็ดสุนัขแบบง่ายๆในการให้ยาเม็ด (Pill) ทางปากแก่สุนัข เมื่อสุนัขอ้าปากให้วางยาที่โคลนลิ้น สุนัขจะกลืนยาเม็ดลงคอไปได้ ถ้าวางยาเม็ดที่ปลายลิ้นหรือบริเวณอื่นในปาก สุนัขจะสามารถขย้อนยาเม็ดนั้นออกมาและคายทิ้งไป ทำให้เสียยาไป ในการป้อนยาเม็ดด้วยมือจะต้องจับยาเม็ดเข้าไปในปากต้องมีโอกาสสัมผัส กับน้ำลายสุนัขภายในปากซึ่งมีโรคติดต่อบางอย่างผ่านมาในน้ำลายสุนัขและติดถึงคนได้ เช่น โรคพิษสุนัขบ้า ฉะนั้นการที่จะป้อนยาเม็ดด้วยมือนั้นต้องทราบประวัติสุนัขตัวนั้นอย่างแน่นอนว่า ไม่เป็นโรคพิษสุนัขบ้า ทางที่ดีควรป้อนยาเม็ดโดยใช้เครื่องมือ เช่น Balling Gun หรือปากคีบเป็นต้น ซึ่งการใช้เครื่องมือดังกล่าวนี้มือคนป้อนสุนัขจะไม่สัมผัสน้ำลายสุนัขเลยวิธีการป้อนยาเม็ดด้วยมือ ในการป้อนยาเม็ดด้วยมือนั้น อาจใช้มือไหนจับหัวสุนัขก็ได้ ขึ้นอยู่กับความถนัด สมมุติว่าใช้มือขวาเป็นมือที่ใช้จับหัวสุนัข โดยใช้ฝ่ามือคว่ำและคร่อมสันจมูกบริเวณ Interdental Space ให้สันจมูกอยู่ระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วที่เหลือทั้ง 4 ท่อน แขนของมือขวาวางทาบไปบนหน้าผากของสุนัขซึ่งท่อนแขนนี้จะช่วยยกให้หัวสุนัขแหงนขึ้นด้วย แต่ทั่ว ๆ ไป สุนัขไม่ยอมอ้าปาก ต้องใช้นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วที่เหลือทั้ง 4 กดริมฝีปากให้แรงพอที่จะให้ริมฝีปากนั้น กดกับเหงือกและฟันทำให้สุนัขยอมอ้าปากได้ บางรายแทนที่จะใช้ฝ่ามือคร่อมขากรรไกรกลับมาจับที่ขากรรไกรล่างแทนก็ได้ เมื่อสุนัขอ้าปากแล้วใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางของมือซ้ายคีบยาเม็ดค่อย ๆ ไปวางที่โคนลิ้นสุนัข รีบชักมือออกพร้อมกับหุบปากสุนัขทันที พยายามอย่าให้สุนัขอ้าปาก เพราะว่าจะขย้อนยาเม็ดดังกล่าวออกมา สังเกตดูว่าสุนัขกลืนยาหรือไม่โดยดูที่คอสุนัข ไม่ควรใช้มือไปขยำหรือนวดที่คอเพื่อช่วยให้กลืนยาเม็ด เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไรและยังอาจทำให้สุนัขไม่สามารถกลืนยาได้บางครั้งการให้ยาเม็ดไม่จำเป็นต้องป้อน ในกรณีนี้ทำได้ง่ายมาก เพียงแต่นำยาเม็ดนั้นแทรกลงไปในก้อนเนื้อกล้วย หรือฮอทด็อกหรืออาหารที่สุนัขชอบกินและโปรดปรานนำมาสอดไส้ใส่ยาเข้าไปแล้ววางให้สุนัขกินก็ได้ แต่สุนัขบางตัวมีความฉลาดและรู้ทัน จะไม่ยอมกินซึ่งจำเป็นต้องป้อน อาจจะด้วยมือ หรือใช้เครื่องมือป้อนยาเม็ดนั้นช่วยในการป้อนยาเม็ดนั้นถ้ามือไปสัมผัสกับน้ำลายสุนัข หลังจากเสร็จแล้ว ควรล้างมือทันทีเพื่อรักษาความสะอาด
การจับบังคับสุนัขเพื่อให้กินยาประเภทน้ำ ในการป้อนยาประเภทน้ำนั้นค่อนข้างจะง่ายกว่า การป้อนยาประเภทเม็ดเพราะว่าไม่จำเป็นต้องอ้าปากสุนัขแต่อย่างใด สามารถป้อนได้ในขณะที่สุนัขยังถูกผูกปากอยู่ได้ โดยอาศัยหลักทางกายภาพที่ว่า มุมฝีปากด้านข้างสุนัขนั้น มีความยืดหยุ่นได้ ใช้มือหนึ่งจับที่ปลายปากโดยรอบทั้งขากรรไกรล่างและขากรรไกรบนไว้อีกมือหนึ่งแยกริมฝีปากล่างและดึงมุมปากออกมา ก็จะเกิดเป็นลักษณะกระพุ้งหรือถุง ของแก้มสามารถที่จะใช้ช้อน กระบอกฉีดยาหรือใช้เครื่องใส่ยาน้ำ สำหรับป้อนฉีดเข้าไปในกระพุ้งแก้ม ขณะเดียวกันก็พยายามยกหน้าสุนัขให้เชิดขึ้นเล็กน้อยข้อสำคัญ เครื่องมือที่ใช้ใส่ยาสำหรับป้อนนั้นไม่ควรทำด้วยวัสดุประเภทแก้วหรือสิ่งที่แตกง่าย เพราะว่าสุนัขอาจจะกัดหรือดิ้นและหล่นแตก อาจจะบาดปากสุนัขหรือมือผู้ป้อนได้ เครื่องมือเฉพาะสำหรับป้อนยาน้ำเรียกว่า"Drenchong Spoon" จึงจะปลอดภัยทั้งตัวท่านและสัตว์เลี้ยง

การเล็มขนที่ก้นปอมเปอเรเนียน ใช้กรรไกรปลายคมแนบติดเนื้อบริเวณก้นน้องปอมอย่างระมัดระวัง สำหรับมือใหม่ให้ฝึกให้ห่างจากเนื้อบริเวณก้นก่อน พอทำหลายครั้งจะเกิดความชำนาญค่ะ ไม่ต่างจากก้นน้องยอร์ค ควรฝึกสุนัขให้ยืนนิ่งด้วยน่ะค่ะ ไม่งั้นจะกรรไกรจะบาดบริเวณเนื้อได้ค่ะ ถ้าสุนัขเจ็บเขาจะจำ และจะฝังใจในการที่เขาเคยเจ็บมาแล้ว แต่ไม่เป็นการยากเลย ค่อยๆ เล็มจนเห็นเนื้อรูทวาร เล็มให้เกลี้ยง จะเห็นคราบอุจจาระที่เป็นคราบติดที่รูปทวารชัดขึ้นกว่าเก่า เพราะขนที่ปกปิดไว้ จึงทำให้เจ้าของไม่ได้สังเกตใช้กรรไกรฟันปลา ตัดแต่งขนบริเวณโคนหางด้านข้างให้เรียบร้อยเสร็จแล้วจะเห็นว่าก่อนและหลังจากการเล็มขนที่ก้น แตกต่างกันมาก ก้นน้องปอมก็สะอาด คราบอุจจาระก็หมดไป
วิธีเช็ดหูสุนัขหูน้องหมาจากเป็นรูปตัวแอลในภาษาปะกิต ดังนั้นเมื่อเราแหย่ไม้ลงไปสุดแค่ไหน ก็แค่นั้นพอครับ อย่าฝืนทะลุทะลวงลงไป อันตรายมาก ๆวิธีเช็ดหูน้องหมา1. ปลิ้นหูน้องหมาให้รูหูเปิดโล่ง2. ใช้คอตต้อลบัดที่เช็ดหู ( ฉีกเป็น 2 - 4 ชิ้น ตามแนวผ้า ) ฉีกพันกับปากคีบที่แถมมาด้วย แล้วเช็ดในรูหู ข้อควรจำ ผ้าที่เช็ดหูแต่ละชิ้น ใช้กับหูข้างเดียว เปลี่ยนหูก็เปลี่ยนชิ้น เพราะถ้ามีเชื้อโรคจะได้ไม่ติดไปอีกข้างนึง 3. แหย่คอตต้อลบัดลงไปสุดเมื่อติดผนังหูแล้วก็หมุน ควานนิดหน่อย ให้พอสะอาด เอาออกมาดุ ถ้าสกปรกมาก ก็เปลี่ยนผ้าชิ้นใหม่ทำความสะอาดซ้ำ ( สองครั้งก็พอครับมากกว่านี้น้องจะเจ็บ ไว้วันหลังทำอีกก็ได้ 2 - 3 วัน ) 4. เอาผ้าเช็กใบหูให้สะอาด ( เปลี่ยนผ้าชิ้นใหม่ด้วยครับ )ปกติผมใช้ผ้าสองชิ้น ชิ้นแรก ฉีกแบ่ง 4 เช็ดรูหู ข้างละสองชิ้นเล็ก ชิ้นที่สอง ฉีดแบ่งสอง ใช้เช็ดใบหู กระป๋องนึง 60 แผ่น เช็ดได้ 30 ครั้ง
วิธีวัดอุณหภูมิของสุนัขสุนัขที่มีสุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บป่วย อุณหภูมิของร่างกายจะอยู่ระหว่าง 38.1-39.2 องศาเซลเซียส หรือ 100.5 -102.5 องศาฟาเรนไฮด์ ความตื่นเต้นและออกกำลังกายจะทำให้อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น ในทำนองเดียวกันกับเมื่อเกิดการติดเชื้อหรือได้รับความร้อนมากเกินไป อุณหภูมิที่ต่ำกว่าเกณฑ์ปรกติมักจะเกิดจากสุนัขซึ่งอยู่ในที่ที่มีอากาศหนาว หรือเมื่อสุนัขเกิดอาการช็อก ลองบันทึกอุณหภูมิของร่างกายในขณะที่สุนัขกำลังพักผ่อนวิธีวัดอุณหภูมิของสุนัข1. ถ้าใช้เทอร์โมมิเตอร์ชนิดที่ทำด้วยแก้ว ให้สลัดเทอร์โมมิเตอร์จนปรอทลงไปต่ำสุด ทำให้ปลายเทอร์โมมิเตอร์ลื่น โดยทาด้วยครีมเควาย เยลลี่ ซึ่งมีจำหน่ายตามร้านขายยาแผนปัจจุบันทั่วไป เสียบเทอร์โมมิเตอร์ โดยค่อย ๆ หมุนเข้าไปในทวารหนักให้ลึก ราว 2.5 ซม.2. จับหางและเทอร์โมมิเตอร์ ให้อยู่กับที่ นานราว 90 วินาที แล้วจึงดึงเทอร์โมมิเตอร์ออก เช็ดเทอร์โมมิเตอร์ให้สะอาด แล้วอ่านอุณหภูมิที่วัดได้ ให้ทำความสะอาดโดยการฆ่า เชื้อหลังการวัดอุณหภูมิทุกครั้งหมายเหตุ อย่าพยายามวัดอุณหภูมิของสุนัขทางปาก ถ้าสุนัขไม่ยอมให้วัดโดยแสดงอาการต่อต้านอย่างรุนแรง

ไม่มีความคิดเห็น: